6. การแตกของคลื่น (wave
breaking)
คลื่นจะแตกได้เมื่อยอดคลื่นแหลมเกินไปคือมุมของยอดแหลมน้อยกว่า 120 องศา และ ความชันของยอด
(อัตราส่วนระหว่างความสูงและความยาวคลื่น) น้อยกว่า 1/7 (ภาพที่ 8.12) ที่ความชันดังกล่าวยอดคลื่นจะเคลื่อนที่เร็วกว่าฐานทำให้เสียความสมดุล
จึงทำให้เกิดการแตกตัวและเมื่อพัดเข้าสู่ฝั่ง
จะเกิดการถ่ายทอดพลังงานจากคลื่นเข้าสู่ฝั่ง ซึ่งจะเรียกบริเวณนี้ว่า surf
zone (ภาพที่ 8.13) ซึ่งจะมีการถ่ายทอดพลังงานเกิดขึ้นอย่างมากมาย
ลักษณะการแตก ของคลื่นมี 3 แบบด้วยกันคือ
ภาพที่ 8.12 คลื่นจะแตกตัวเมื่อัตราส่วนระหว่างความสูงและความยาวคลื่นน้อยกว่าหนึ่งต่อเจ็ด
ที่มา: Garrison (2007)
ที่มา: Garrison (2007)
ภาพที่ 8.13 การถ่ายทอดพลังงานของคลื่นเมื่อเข้าสู่ฝั่งก่อให้เกิดพื้นที่
surf zone
ที่มา: Garrison (2007)
ที่มา: Garrison (2007)
1) Plunging breaker เป็นคลื่นที่มีการปล่อยพลังงานอย่างรวดเร็วและรุนแรง เดินทางด้วย ความเร็วสูง คลื่นจะม้วนตัวไปข้างหน้าและแตกออกอย่างรวดเร็ว เกิดบริเวณที่คลื่น เดินทางเข้าฝั่งที่มีความลาดชันมาก น้ำจะคลุมอากาศไว้ทำให้มีการใช้พลังงานอย่างรวดเร็ว และมีเสียงดังเกิดขึ้น (ภาพที่ 8.14)
ภาพที่ 8.14 การแตกของคลื่นแบบ Plunging breaker
ที่มา: Garrison (1996)
ที่มา: Garrison (1996)
2) Spilling breaker คลื่นจะแตกโดยยอดคลื่นโค้งไปข้างหน้า ปลายยอดแตกเป็นฟองขาว ทางด้านหน้า และคลื่นจะเว้าทั้งสองข้างเรียกว่า cycloid คลื่นแบบนี้จะมีความชันมากกว่า 0.01 โดยเฉพาะเมื่อมีลมพัดเข้าสู่ฝั่งในชายหาดที่มีความลาดเอียงน้อย (ภาพที่ 8.15)
ภาพที่ 8.15 การแตกของคลื่นแบบ Spilling breaker
ที่มา: Garrison (1996)
ที่มา: Garrison (1996)
3) Surging breaker เกิดกับชายฝั่งที่มีลักษณะแห้ง(มีบางบริเวณที่น้ำซัดไม่ถึง)
และมีความชันที่มี การเปลี่ยนแปลงความชันจากบริเวณที่มีความชันสูงมายังความชันน้อย
คลื่นจะถอยหลังกลับ และกระแทกกับคลื่นลูกหลังที่ไล่มา (ภาพที่ 8.16)
ภาพที่ 8.16 การแตกของคลื่นแบบ Surging breaker
ที่มา: Garrison (1996)
ที่มา: Garrison (1996)
นอกจากนี้เรายังพบคลื่นบริเวณชายฝั่งอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า กระแสน้ำชายฝั่ง
(longshore current) และกระแสน้ำออกจากฝั่ง (rip current) โดยคลื่นที่เคลื่อนที่ถึงชายหาด
หลังจากถ่ายทอดพลังงานให้แก่ชายหาดแล้ว
น้ำบางส่วนจะเคลื่อนไปยังชายหาดและถ้าคลื่นเหล่านั้นเกิดการซ้อนกันจะเกิดเป็น
กระแสน้ำเลียบชายฝั่งได้ บางครั้งกระแสน้ำเลียบชายฝั่งอาจไหลสวนทางมาพบกันจะเกิดเป็น
กระแสน้ำเคลื่อนที่ออกจากฝั่งเป็น ระยะทางไกล ๆ
ได้ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อต่อผู้ที่ว่ายน้ำเล่นตามชายฝั่ง
และถ้าเกิดในระดับที่ลึกลงไป (under flow) จะยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้น
ถ้ารู้ว่ากำลังอยู่ในกระแสน้ำที่ ออกจากฝั่งดังกล่าวให้รีบว่ายน้ำขนานกับฝั่งด้านใด
ด้านหนึ่งให้เร็วที่สุดก็จะหลุดพ้นจากกระแสน้ำดังกล่าวได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น