7. การเปลี่ยนทิศทางของคลื่น
1. การสะท้อน (wave reflection) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคลื่นเคลื่อนที่ไปปะทะ
สิ่งกีดขวางที่สามารถสะท้อนคลื่นได้ ผลจากการปะทะทำให้อนุภาคของน้ำไม่สามารถ
เคลื่อนที่เป็นวงได้จึงเคลื่อนที่ไปทางด้านข้างของวัตถุที่ปะทะ
โดยอนุภาคของน้ำจะเคลื่อนที่ขึ้นสูงเมื่อเคลื่อนที่เข้ามาที่วัตถุปะทะ
และเคลื่อนที่ลงต่ำเมื่อเคลื่อนออกมาจากวัตถุที่ปะทะ
ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเห็นได้ชัดเจนตามบริเวณ ท่าเรือ อ่าวหรือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่
ที่มีลักษณะเป็นแผ่นกว้าง
2. การหักเห (wave refraction) เป็นการโค้งงอของคลื่นซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลง
ความลึกของน้ำ
ทำให้ดูเหมือนว่าคลื่นเคลื่อนที่เข้าหาฝั่งในลักษณะที่ขนานกับฝั่งเสมอ
การหักเหของคลื่นใต้น้ำ อธิบายได้โดยใช้กฎของ Snail เช่นเดียวกับที่ใช้ในการหักเหของแสง
คลื่นในมหาสมุทรสามารถเขียนเส้นที่ เรียกว่า orthogonal line ในทุกแห่งตั้งฉากกับยอดคลื่นได้ เพื่อบอกทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่น
มุมที่เกิดขึ้นระหว่าง orthogonal line และเส้นที่ลากตั้งฉาก
กับเส้นแสดงความลึกเท่า (depth contour) โดยค่านี้จะมีความสัมพันธ์กับความแรงของคลื่น
ที่ความลึกต่าง ๆ กัน
3. การแยกโค้งของคลื่น (diffraction) เป็นปรากฏการณ์ของคลื่นซึ่งเป็นไปตาม Huygen’s
law ซึ่ง
กล่าวว่าแต่ละจุดบนยอดคลื่นทำตัวเหมือนจุดกำเนิดจุดหนึ่งสำหรับยอดคลื่น ใหม่ อื่น
ๆ ได้โดยจะทำให้ เกิดการโค้งงอแยกออกไปเมื่อพบกับสิ่งกีดขวาง และจะต่างไปจาก
การสะท้อน ของคลื่น โดยการแยกโค้ง
ของคลื่นนี้จะแผ่ออกไปด้านข้างและก่อให้เกิดคลื่นใหม่
ที่แตกต่างไปจากคลื่นที่มากระทบวัตถุกีดขวาง โดยการแยกโค้งของคลื่นจะเป็นประโยชน์
อย่างมากในการสร้างกำแพงกันคลื่น เพราะจะทำให้ความสูงของคลื่นลดลงเนื่องจากคลื่น
จะมีการแผ่กระจายออกไปด้านข้างทำให้หลังกำแพงกันคลื่น เป็นบริเวณที่สงบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น